คอมพิวเตอร์จิ๋วอีกรายครับ อีกทางเลือกนอกจาก Raspberry Pi, Cubieboard, Banana Pi และ ODROID-C1 โดยเจ้านี้นำชื่อผลไม้คือส้มมาตั้งชื่อเป็น Orange Pi 2 ใช้ชิป Allwinner H3 ซึ่งมี CPU คือ ARM Cortex-A7 quad-core สัญญาณนาฬิกาเร็ว 1.6GHz ทำให้ประสิทธิภาพซึ่งวัดด้วยค่า DMIPS น่าจะสูงถึง 1.9x1600x4 = 12160 DMIPS และมี GPU Mali400MP2 เร็ว 600MHz บนบอร์ดมีแรมขนาด 1GB แบบ DDR3 มีช่องต่อ TF card (สูงสุด 64GB) / MMC card slot ไว้เก็บไฟล์และระบบปฏิบัติงาน (ไม่มี SATA นะครับ) มีช่องต่อจอ HDMI ต่อกล้อง CSI พอร์ต USB 2.0 host จำนวน 4 ช่อง และ USB 2.0 OTG หนึ่งช่อง โดยไม่ได้ใช้ USB ในการรับไฟเลี้ยง การต่อไฟเลี้ยงต้องใช้ช่องต่อไฟฟ้ากระแสตรง 5 โวลต์บนบอร์ด มีช่อง GPIO 40-pin เหมือนจะเลียนแบบ Raspberry Pi ในเรื่องการต่อเครือข่าย มีช่อง RJ45 สำหรับ 10/100 Ethernet และมี Wi-Fi (Realtek RTL8189ETV) มาให้บนบอร์ดอยู่แล้ว
ราคาของ Orange Pi 2 คือ 35 ดอลลาร์ไม่รวมค่าขนส่ง และก็ยังมีอีกบอร์ดที่มาคู่กันคือ Orange Pi Mini 2 ซึ่งก็คือ Orange Pi 2 ที่ตัด Wi-Fi ออกไป ราคาลดลงมาหน่อยคือ 30 25 ดอลลาร์ (ราคาล่าสุด) ดอลลาร์ ทางด้าน software ในเรื่องของระบบปฏิบัติงานมีให้เลือกหลากหลาย อาทิเช่น Lubuntu, Raspbian, Debian, Bananian และ Android รวมถึงแจกผังวงจรและสัดส่วนของแผ่นวงจรพิมพ์ เผื่อใครจะเอาไปทำกล่องหรือที่ใส่ให้พอดีตำแหน่งรูเจาะ
อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีถึงสามบอร์ดจากผู้ผลิตเจ้านี้คือ Orange Pi รุ่นแรก ใช้ชิป Allwinner A20 ข้างในเป็น CPU ARM Cortex-A7 dual-core 1GHz บนบอร์ดมีแรม 1 GB DDR3 มีช่อง VGA, SATA 2.0 และ GPIO 26-pin เหมือน Raspberry Pi Model B รุ่นแรก และมี Gigabit Ethernet บอร์ดที่สองคือ Orange Pi 2 เป็นรุ่นตัดทอนไม่มี VGA แต่มี GPIO 40-pin เหมือน RPi รุ่นใหม่ๆ และบอร์ดที่สาม Orange Pi Plus รุ่นเปิดตัวที่ใช้ชิป Allwinner A31s ข้างในเป็น CPU ARM Cortex-A7 quad-core บนบอร์ดมีมี GPIO 26-pin เหมือน Orange Pi แต่ภายหลังเปลี่ยนไปใช้ชิป Allwinner H3 และใช้ GPIO 40-pin และยังมีหน่วยเก็บข้อมูลแบบ EMMC ขนาด 8GB บนบอร์ดสามารถใช้แทน SD card ได้ และมีโมดูลกล้องที่ราคาเพียง 5.90 ดอลลาร์
ที่มา
http://www.orangepi.org
http://www.cnx-software.com/2015/03/21/orange-pi-2-allwinner-h3-quad-core-development-board-sells-for-35/